ชมศิลปะ-ซึมซับวัฒนธรรมที่ไหนดีหากไปเที่ยวซูริก?

นอกจากจะถูกนับว่าเป็นเมืองที่ก้าวล้ำด้านแฟชั่นที่สุดเมืองหนึ่งของโลกโดยนิตยสารชั้นนำอย่าง Monocle และ Wallpaper แล้ว ซูริกยังเป็นแหล่งสร้างสรรค์ทางศิลปะ, งานออกแบบ และสถาปัตยกรรมที่สำคัญไม่แพ้ประเทศอื่นๆ ในแถบเทือกเขาแอลป์ เมืองในสวิตเซอร์แลนด์แห่งนี้มีพิพิธภัณฑ์มากกว่า 50 แห่ง, แกลเลอรี่ศิลปะกว่า 100 ที่ และโรงละครโอเปร่าที่รูปทรงเหมือนเค้กแต่งงานด้วย นี่คือสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาดหากไปเที่ยวซูริก

พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Kunsthaus

ไม่ว่าจะชื่นชอบงานศิลปะหรือไม่ก็ตาม อาจถือว่าคุณยังมาไม่ถึงซูริกจริงๆ หากไม่ได้มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้ ไฮไลต์สำคัญคืออาคารส่วนต่อเติมซึ่งสถาปนิกระดับโลกอย่าง David Chipperfield เป็นผู้ออกแบบ ซึ่งทำให้ Kunsthaus กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ และมีคอลเลคชั่นงานศิลปะลัทธิดาดาที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ งานศิลปะจากคอลเลคชั่นสะสมของตระกูล Merzbacher มีภาพวาดระดับมาสเตอร์พีซจากต้นศตวรรษที่ 20 หลายชิ้นโดยศิลปินอย่าง Henri Matisse, Pablo Picasso ไปจนถึง Wassily Kandinsky

โบสถ์ Grossmunster และ Fraumünster

นอกจากโบสถ์ St. Peterskirche ซึ่งหน้าปัดหอนาฬิกามีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป โบสถ์ใหญ่อีกสองแห่งที่ไม่ควรพลาดคือโบสถ์ Grossmunster และโบสถ์ Fraumünster ซึ่งตั้งอยู่คนละฟากของแม่น้ำลิมมัต กระจกสีสุดตระการตาในโบสถ์ Fraumünster สร้างโดย Marc Chagall ศิลปินเชื้อสายรัสเซีย-ฝรั่งเศสชื่อดัง ย้อนไปเมื่อทศวรรษที่ 70 Chagall ทำให้สาธารณชนต้องทึ่งที่ตอบตกลงสร้างงานชิ้นใหญ่เช่นนี้แม้ในตอนนั้นเขาจะอายุมากถึง 80 ปีแล้ว

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติสวิตเซอร์แลนด์  

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติสวิตเซอร์แลนด์ (Swiss National Museum หรือ Schweizerisches Nationalmuseum) เป็นพิพิธภัณฑ์สำคัญที่เก็บบันทึกทุกเรื่องราวที่คุณอยากรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์สวิตเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ยุคก่อตั้งประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ในอาคารที่ดูเหมือนเป็นปราสาทในเทพนิยายซึ่งตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟซูริก นิทรรศการที่สามารถเข้าชมได้ฟรีชื่อ “Simply Zurich” จะพาคุณไปรู้จักกับ
ประวัติศาสตร์สวิตเซอร์แลนด์ผ่านสิ่งของ 60 ชิ้น นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการอีกงานที่บอกเล่าเส้นทางระบอบประชาธิปไตยของสวิตเซอร์แลนด์ตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 19 อีกด้วย ว่ากันว่ารัฐธรรมนูญสหพันธรัฐของสวิตเซอร์แลนด์เมื่อปี ค.ศ. 1848 (Federal Constitution of 1848) ได้กลายเป็นรากฐานของประชาธิปไตยในหลายประเทศทั่วโลก หลังเยี่ยมชมนิทรรศการต่างๆ เสร็จ อย่าลืมแวะเลือกซื้อของที่ระลึกสุดสร้างสรรค์สไตล์สวิสกว่า 2,000 ชิ้น จากร้านค้าของพิพิธภัณฑ์กันด้วยนะ

Le Corbusier House

พิพิธภัณฑ์ Le Corbusier ที่ Le Corbusier เป็นผู้ออกแบบเอง พูดแค่นี้ก็คงเดาได้แล้วว่านี่จะเป็นสวรรค์ของผู้หลงใหลงานออกแบบและสถาปัตยกรรมสมัยใหม่อย่างแน่นอน คุณจะเลือกไม่ถูกเลยว่าจะถ่ายรูปมุมไหนลงอินสตาแกรมดี จะเป็นตัวพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบซูริก หรือโครงสร้างอาคารที่ผสมผสานเหล็กกล้าเข้ากับกระจกไว้อย่างลงตัว นอกจากจะเป็นงานชิ้นสุดท้ายที่สถาปนิกชาวสวิสผู้ล่วงลับได้ออกแบบไว้ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังรวบรวมงานออกแบบต่างๆ มาจัดแสดงไว้มากมาย อาทิ เฟอร์นิเจอร์โดย Le Corbusier เอง และของนักออกแบบชื่อดังคนอื่นๆ อาทิ Pierre Jeanneret และ Charlotte Perriand

ย่าน Niederdorf และ Lindenhof 

แม้จะเต็มไปด้วยถนนหนทางและจัตุรัสเก่าแก่จากยุคโบราณ ย่าน Niederdorf และ Lindenhof ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือของทะเลสาบซูริกเป็นที่ตั้งของร้านค้าและแกลเลอรี่ศิลปะสมัยใหม่มากมาย ถ้าเดินซอกแซกไปตามถนนจากย่านเมืองเก่าไปจนถึงแม่น้ำ
ลิมมัต คุณจะเจอสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านขายอุปกรณ์ศิลปะ, หอนาฬิกา, คลับให้แวะเข้าไปกินดื่มพักผ่อนในบรรยากาศแบบ “บีชคลับ” แต่อยู่ใจกลางเมือง รวมถึงแกลเลอรี่ศิลปะสุดล้ำยุคอย่าง Cabaret Voltaire

อย่าลืมแวะไปที่แกลเลอรี่และคาเฟ่อันโด่งดังแห่งนี้บนถนน Spiegelgasse ด้วยล่ะ ย้อนไปเมื่อปี 1916 นักเขียน Hugo Ball ก่อตั้งศิลปะลัทธิดาดา (กระแสความเคลื่อนไหวทางศิลปะที่มีแนวทางต่อต้านสังคมและกฎเกณฑ์ความงามของศิลปะแบบเดิมๆ) ที่สถานที่แห่งนี้ ทุกวันนี้ Cabaret Voltaire ก็ยังจัดงานนิทรรศการศิลปะล้ำยุค, งานเสวนา และคอนเสิร์ตดนตรีแจ๊ส ในชั้นใต้ดินอยู่เป็นประจำ

ร่วมออกเดินทางเพื่อค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆที่ซูริก จองเที่ยวบินไปซูริกได้เลยกับการบินไทย – และสามารถดาวน์โหลดคู่มือท่องเที่ยวฉบับซูริกได้แล้วที่นี่