ความโดดเด่นของดินองต์ คือลักษณะของตัวเมืองที่สร้างขนานไปกับพื้นที่ราบริมแม่น้ำเมิซ (Meuse) ขนาบด้วยแนวหน้าผาสูงชัน ที่บนสุดของหน้าผาคือป้อมปราการขนาดใหญ่ซึ่งสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ส่วนชื่อ ดินองต์ (Dinant) นั้นมาจากภาษาเคลต์ว่า “Divo Nanto” ที่แปลว่าหุบเขาศักดิ์สิทธิ์
เมืองบ้านเกิดของแซกโซโฟน
สำหรับคอดนตรีแจซ อาจรู้จักเมืองดินองต์ ในฐานะที่เป็นบ้านเกิดของ อ็องตวน-โฌแซ็ฟ “อาดอลฟ์” ซักซ์ (Antoine-Joseph “Adolphe” Sax) นักดนตรีฟลุตและคลาริเนตชาวเบลเยียม ในขณะเดียวกันก็เป็นผู้ประดิษฐ์แซกโซโฟน เครื่องดนตรีชนิดเครื่องเป่าลมไม้รูปแบบใหม่ในปี พ.ศ. 2389 ที่ต่อมากลายเป็นเครื่องดนตรีชิ้นสำคัญสำหรับวงโยธวาทิต วงออร์เคสตรา รวมถึงวงดนตรีแจซในยุคต่อมา นอกจากนี้เขายังเป็นผู้สร้างสรรค์เครื่องดนตรีอีกมากมายทั้ง แซกโซทรอมบา แซกฮอร์น แซกทูบา หรือทรอมโบน และยังดีไซน์ เบสคลาริเนต ในรูปลักษณ์ใหม่ ซึ่งกลายมาเป็นต้นแบบของเบสคลาริเนตที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน


ครอบครัวของอาดอลฟ์ ซักซ์ นั้นมีธุรกิจทำเครื่องดนตรีในเมืองดินองต์มานาน เขาเองเกิดและเติบโตที่นี่ แม้ต่อมาจะย้ายไปตั้งรกรากที่ฝรั่งเศส แต่เรื่องราวและผลงานการสร้างสรรค์ของเขาถูกนำมาจัดแสดงไว้ที่ Mr Sax’s House พิพิธภัณฑ์ดนตรีขนาดกะทัดรัดที่จะทำให้คุณได้รู้จักตัวตนและผลงานของอาดอลฟ์ ซักซ์ มากยิ่งขึ้น และยังได้ฟังเสียงแซกโซโฟน บรรเลงผ่านบทเพลงทั้งเพลงคลาสสิก เพลงแจซ ตลอดการชมพิพิธภัณฑ์ (Mr Sax’s House เปิดทุกวัน เวลา 9.00 – 19.00 น. เข้าชมฟรี เว็บไซต์: sax.dinant.be/EN/sax-the-city/house-of-mr-sax)

กลิ่นอายของดนตรีแจซ ไม่ได้อยู่ที่พิพิธภัณฑ์เท่านั้น แต่ตลอดทางของสะพานชาร์ลส์ เดอ โกล (Pont Charles de Gaulle) ที่เชื่อมเมืองดินองต์ทั้งสองฝั่งแม่น้ำเข้าด้วยกัน ยังมีแซกโซโฟนที่ทำจากเรซินตกแต่งลวดลายกราฟฟิกสีสันสดใสรวม 28 ชิ้น ตั้งเรียงรายตลอดทาง
ภายในเมืองดินองต์ ยังมีสถานที่ห้ามพลาดไม่ว่าจะเป็น Church of Our Lady of Dinant โบสถ์สไตล์โกธิกซึ่งโดดเด่นด้วยยอดทรงหัวหอม และมีฉากหลังเป็นหน้าผาสูงตระหง่าน ทางฝั่งทิศใต้ของเมืองยังมี Grotte de Dinant La Merveilleuse ถ้ำหินงอกหินย้อยให้เดินลงไปสำรวจความอลังการของธรรมชาติใต้ผืนดินได้
แวะเมืองนามูร์ก่อนกลับ
เมืองนามูร์ (Namur) อยู่ห่างจากดินองต์แค่ 30 กิโลเมตร ป้อมปราการที่ตั้งอยู่บนเขา ซึ่งเป็นจุดบรรจบของแม่น้ำเมิซและแม่น้ำแซมเบร (Sambre) สามารถนั่งกระเช้าขึ้นไปชมทิวทัศน์ของเมืองได้ ส่วนในตัวเมืองมีพิพิธภัณฑ์น่าชมหลายแห่ง เราแนะนำให้แวะไปที่ Les Bateliers – Museums of Archaeology and Decorative Arts พิพิธภัณฑ์ที่รวมคฤหาสน์หรูหราของ Counts of Groesbeeck ในยุคศตวรรษที่ 18, โบสถ์จากศตวรรษที่ 19 และแกลเลอรีร่วมสมัยไว้ในรั้วเดียวกัน ภายในยังมีสวนสไตล์ฝรั่งเศสให้ได้นั่งเล่นชมบรรยากาศได้ทุกฤดู


Tips: การเดินทางจากบรัสเซลส์มาดินองต์ ใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่งโดยรถไฟ สถานีรถไฟดินองต์ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำเมิซ สามารถเดินข้ามสะพานชาร์ลส์ เดอ โกล (Pont Charles de Gaulle) มายังฝั่งเมืองเก่าซึ่งเป็นที่ตั้งของป้อมปราการ และโบสถ์ Church of Our Lady of Dinant ได้
ไปเดินเล่นที่เมืองดินองต์กันไหม บินไปบรัสเซลส์กับการบินไทยได้เลย