บรูจส์ (Bruges) หรือ บรึคเคอ (Brugge) ในภาษาดัตช์ คือเมืองประวัติศาสตร์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเบลเยียมที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกเมื่อ พ.ศ. 2543 และด้วยความที่อดีตเมืองท่าแห่งนี้เต็มไปด้วยคูคลอง บรูจส์จึงได้รับการขนานนามว่าเป็น “Venice of the North” หรือ “เวนิสแห่งยุโรปเหนือ” อีกด้วย
ความยอดเยี่ยมของช็อกโกแลตเบลเยียม
เบลเยียมได้ชื่อว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งช็อกโกแลต” มานานนับร้อยปี ไม่แปลกใจที่เราจะได้กลิ่นหอมหวานของช็อกโกแลตอบอวลอยู่เป็นระยะตลอดการท่องเที่ยวที่บรูจส์ และแน่นอนว่าเมื่อมาถึงถิ่นแล้ว คนรักช็อกโกแลตห้ามพลาด 3 สถานที่นี้
พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลต Choco-Story Bruges
พิพิธภัณฑ์ที่นำประวัติศาสตร์ 5,500 ปี ของช็อกโกแลตกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ภายในประกอบด้วยคอลเล็กชันที่รวบรวมทุกเรื่องเกี่ยวกับช็อกโกแลตกว่า 1,000 ชิ้น บอกเล่าตั้งแต่ต้นกำเนิดและวิวัฒนาการของช็อกโกแลต สาธิตวิธีการทำช็อกโกแลตทั้งในอดีตและปัจจุบัน ส่วนใครที่อยากค้นหาความลับเบื้องหลังช็อกโกแลตสอดไส้ ทางพิพิธภัณฑ์มีโซนเวิร์กช็อปพร้อมให้ลิ้มรสช็อกโกแลตที่ทำเองอีกด้วย


รู้หรือไม่? พิพิธภัณฑ์ Choco-Story ก่อตั้งโดยครอบครัวแวน เบลล์ (Van Belle) ที่หลงใหลในช็อกโกแลตและได้รับการสนับสนุนจาก Belcolade ผู้ผลิตช็อกโกแลตเบลเยียมแท้เพียงแห่งเดียวในประเทศเบลเยียม
ที่ตั้ง: ถนน Wijnzakstraat 2 ตัดกับ Sint-Jansstraat
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 10.00-18.00 น.
ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 14 ยูโร / เด็กอายุ 3-11 ปี 8.50 ยูโร
เว็บไซต์: https://choco-story-brugge.be/en/

ร้าน The Old Chocolate House
ร้านช็อกโกแลตเบลเยียม ที่ดำเนินธุรกิจแบบครอบครัวโดย Françoise Thomaes เปิดให้บริการเมื่อ พ.ศ. 2540 มอบบรรยากาศอบอุ่นเหมือนชวนเพื่อนมานั่งจิบช็อกโกแลตร้อนถ้วยใหญ่ที่บ้าน ชั้นล่างจำหน่ายช็อกโกแลตทุกรูปแบบ ทุกรสชาติ ส่วนชั้นสองจัดเป็นทีรูมคาเฟ่ขนาดกะทัดรัดทว่ามีเมนูช็อกโกแลตร้อนให้เลือกชิมมากกว่า 30 ชนิด


ซิกเนเจอร์ของทางร้านคือ ช็อกโกแลตร้อนที่เสิร์ฟแบบเบลเยียม เป็นการนำช็อกโกแลตเข้มข้นมาคนให้ละลายในนมร้อน ใครชอบรสชาติเข้มข้นหวานหอม แนะนำให้ลองเมนู Death by Chocolate ช็อกโกแลตร้อนที่ทำจากดาร์กช็อกโกแลตผสมนม ท็อปปิงด้วยคุกกี้ Oreo วิปครีมช็อกโกแลต M&M’S คุกกี้ครัมเบิล และมาร์ชแมลโลว์ กินคู่กับ Grandmother’s Waffles วาฟเฟิลรสมือคุณยายสูตรดั้งเดิม
ที่ตั้ง: ถนน Mariastraat 1C ใกล้กับจัตุรัส Markt
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 10.00-18.00 น. (โซนคาเฟ่ชั้น 2 ปิดทุกวันพุธ)
เว็บไซต์: https://www.oldchocolatehouse.be/

ร้าน The Chocolate Line
เปลี่ยนโหมดจากช็อกโกแลตดั้งเดิมมาลิ้มลองรสชาติไม่คุ้นเคยที่ The Chocolate Line ที่สร้างสรรค์โดยครอบครัวของ Persoone เริ่มจาก Dominique ผู้เป็นพ่อมีสวนโกโก้ของตัวเองในเม็กซิโก ในขณะที่แม่ Fabienne และลูกชาย Julius ซึ่งเป็นเชฟของร้าน สร้างสรรค์เมนูอันเป็นเอกลักษณ์ จนทำให้ร้านได้รับคัดเลือกให้เป็นร้านช็อกโกแลตที่ดีที่สุดประจำปี พ.ศ. 2566 โดย Gault & Millau Gourmet Guide ที่นี่มีเมนูช็อกโกแลตแนะนำ อาทิ Havana Cigar ช็อกโกแลตหมักในเหล้ารัม คอนญัก และใบยาสูบของคิวบา Sake ช็อกโกแลตผสานกานาชรสขม สาหร่ายทะเล และไวน์ข้าวญี่ปุ่น Red Lips ช็อกโกแลตผสมแอลกอฮอล์ มีมาการิต้าและผิวมะนาวเป็นตัวชูโรง Deadly Delicious ช็อกโกแลตรูปหัวกะโหลกที่หลอมรวมทั้งบลูเบอร์รี ราสป์เบอร์รี พราลีนเฮเซลนัท และไวโอเล็ตนูกาติน
ที่ตั้ง: ถนน Simon Stevinplein 19
เวลาเปิด-ปิด: อังคาร-เสาร์ 09.30-18.30 น. และอาทิตย์-จันทร์ 10.30-18.30 น.
เว็บไซต์: https://www.thechocolateline.be/en/


หนึ่งวันพันไฮไลต์ที่บรูจส์
เริ่มต้นเที่ยวเมืองบรูจส์ที่ Markt จัตุรัสการค้ายอดนิยมใจกลางเมืองบรูจส์ ล้อมรอบไปด้วยร้านอาหารและคาเฟ่ โดดเด่นด้วยหอระฆัง Belfry of Bruges อายุกว่า 800 ปี ภายในมีบันไดวน 366 ขั้น ก่อนขึ้นไปยังด้านบนสุดที่สูงถึง 83 เมตร เพื่อชมวิวเมือง 360 องศา

คลองโรเซนเฮดได (Rozenhoedkaai) ถนนริมคลองล้อมรอบตัวเมืองชั้นในของบรูจส์ สองฝากฝั่งสวยงามราวกับเทพนิยายทั้งช่วงเวลากลางวันและกลางคืน หรือหากอยากล่องเรือในลำคลองชมความงดงามของบ้านเรือน มีบริษัทเรือราว 5 แห่งคอยให้บริการนักท่องเที่ยว ค่าบริการ 12 ยูโรต่อคน ใช้เวลาล่องเรือ 30 นาที

Tips: ทัวร์ล่องเรือเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เดือนมีนาคม – กลางเดือนพฤศจิกายน ส่วนช่วงฤดูหนาว เปิดให้บริการเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ หรือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
อยากไปชิมช็อกโกแลตที่บรูจส์ บินไปบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมกับการบินไทยได้เลย