อาจกล่าวได้ว่าคุณยังมาไม่ถึงลอนดอนจริงๆ หากไม่ได้ไปดูละครเวทีสักเรื่องก่อนกลับ อาจจะไปหลังจากไปเดินช็อปปิ้งที่ถนนออกซ์ฟอร์ดหรือทานอาหารจีนที่ไชน่าทาวน์ ละครเวทีเป็นเอกลักษณ์และส่วนประกอบสำคัญของสังคมอังกฤษมาช้านานแล้ว ในลักษณะเดียวกันกับย่านบรอดเวย์ของนิวยอร์ก ย่านเวสต์เอนด์ที่ใจกลางลอนดอนถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางธุรกิจโรงละครของโลกตะวันตกที่คนใช้ภาษาอังกฤษกันอีกแห่ง โดยหลายคนนิยมที่จะไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแถวนั้นก่อนดูละครในตอนค่ำ แม้ว่าโรงละครบางแห่งจะสลับเปลี่ยนเอาละครใหม่ๆ มาจัดแสดงหลายเรื่องต่อปี แต่ละครบางเรื่องก็ถูกนำมาจัดแสดงต่อเนื่องมาหลายทศวรรษติดต่อกันแล้ว อาทิ The Mousetrap ที่จัดแสดงมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 ถึงอย่างไรก็ตาม เมืองหลวงแห่งสหราชอาณาจักรแห่งนี้ไม่ได้มีตัวเลือกจำกัดอยู่แค่ละครเวสต์เอนด์ดังๆ อย่างเช่น Les Miserables, The Phantom of the Opera หรือ Harry Potter and the Cursed Child เท่านั้น
มาลอนดอนรอบนี้เราอยากให้คุณได้ลองไปชมโชว์ใหม่ๆ 5 เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นละครที่ดัดแปลงจากภาพยนตร์แอนิเมชันดังของญี่ปุ่น, คอนเสิร์ตวงตำนานยุค 70 ที่ผสมผสานโลกแห่งความเป็นจริงเข้ากับโลกเสมือนจริง ไปจนถึงละครเพลงที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของบุรุษผู้เป็นแรงบันดาลใจให้คนทั่วโลก


1. My Neighbour Totoro
กว่าสองทศวรรษผ่านไปหลังสตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli) บริษัทผลิตภาพยนตร์แอนิเมชันระดับตำนานของญี่ปุ่น สร้างผลงานสุดซึ้งและแสนประทับใจอย่าง My Neighbour Totoro หรือ โทโทโร่เพื่อนรัก ออกสู่สายตาสาธารณชน นี่เป็นครั้งแรกที่แฟนๆ จะได้เห็นเจ้าโทโทโร่แบบ “ตัวเป็นๆ” ในรูปแบบละครเวทีแบบที่ไม่เคยทำที่ไหนมาก่อนโดย Royal Shakespeare Company (RSC)
ละครเวทีเรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวมิตรภาพระหว่างสองพี่น้อง ซัตสึกิและเมย์ กับ
โทโทโร่ วิญญาณผู้พิทักษ์ตัวใหญ่ที่อาศัยอยู่ในป่าใกล้บ้านในชนบทที่พวกเธอเพิ่งย้ายมาอยู่ ผู้กำกับ เฟเลม แม็คเดอร์มอตต์ ทำให้ตัวละครน่ามหัศจรรย์มากๆ ไม่ว่าจะเป็น
ซึซึวาตาริ วิญญาณขนาดเล็กก้อนกลมสีดำ, รถบัสแมว ไปจนถึงตัวละครเอกอย่าง
โทโทโร่ ซึ่งมีชีวิตขึ้นมาบนเวทีด้วยศิลปะการเชิดหุ่นกระบอกและการออกแบบฉากที่แสนจะลื่นไหล น่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้ลายเส้นและสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ของสตูดิโอ
จิบลิ
อีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้แฟนตัวยงหายห่วงได้แน่นอนคือละครเวทีเรื่องนี้ได้ โจ ฮิซาอิชิ นักแต่งเพลงประกอบของภาพยนตร์ต้นฉบับมารับผิดชอบเรื่องดนตรีซึ่งจะแสดงสดบนเวทีด้วย
– My Neighbour Totoro จัดแสดงถึงวันที่ 21 ม.ค. 2566 ที่ Barbican Centre

2. ABBA Voyage
ละครเวทีหรือคอนเสิร์ต? การแสดงสดหรือเทปบันทึกการแสดง? หลายคนที่มีโอกาสได้ไปดู ABBA Voyage มาแล้วอาจบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าการแสดงชุดนี้เป็นทุกอย่างพร้อมๆ กัน
แม้สมาชิกวง ABBA จะไม่ได้มาปรากฏตัวจริงๆ ที่ลอนดอน เทคโนโลยีสามมิติสุดล้ำโดยบริษัทเดียวกันกับที่สร้างภาพยนตร์อย่าง Star Wars และผลงานของค่าย Marvel จะทำให้คนดูรู้สึกว่าได้ชมสมาชิกวงระดับตำนานจากสวีเดนแสดงแบบสดๆ บนเวทีอีกครั้ง
ABBA ในรูปแบบ “อวาตาร์” (หรือที่ ABBA ตั้งชื่อให้ตัวเองว่า “ABBA-tars”) เป็นผลลัพธ์จากการผสมผสานการเคลื่อนไหวของสมาชิกวงในปัจจุบันเข้ากับตัวตนของพวกเขาในอดีตตอนที่โด่งดังที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หน้าผม และเสียงร้อง สถานที่จัดแสดง ABBA Arena ซึ่งจุคนได้ถึง 3,000 คน ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ โดยไฟที่เคลื่อนไหวได้ 500 ดวง พร้อมลำโพง 291 ตัว จะพาผู้ชมย้อนเวลากลับสู่ยุค 70 อีกครั้ง
แน่นอนว่าตลอดการแสดง 90 นาที เหล่า “ABBA-tars” พร้อมวงดนตรีสด จะขนเพลงฮิตมาร้องให้ฟังกันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็น Mamma Mia, Chiquitita, Waterloo รวมถึงเพลงจากอัลบั้มใหม่ล่าสุด Voyage ด้วย
– ABBA Voyage จัดแสดงที่ ABBA Arena ถึงวันที่ 28 พ.ค. 2566

3. Mandela
เรื่องราวของบุรุษผู้เป็นแรงบันดาลใจให้คนทั่วโลกจะเป็นอย่างไรหากถูกถ่ายทอดผ่านเนื้อร้องและท่วงทำนอง? นี่คือสิ่งที่ผู้ชมที่โรงละคร Young Vic จะได้สัมผัสจากการแปลงชีวประวัติของนายเนลสัน แมนเดลาให้กลายเป็นละครเพลง
นายแมนเดลามีชื่อเสียงโด่งดังจากการเคลื่อนไหวต่อต้านนโยบายการแบ่งแยกสีผิว (apartheid) ที่กีดกันคนผิวดำออกจากคนผิวขาวซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อยผู้ปกครองแอฟริกาใต้ในสมัยก่อน ละครเพลงนี้จะเล่าถึงช่วงเวลา 27 ปีที่เขาต้องถูกจองจำอยู่ในคุกหลังถูกจับกุมเมื่อปี พ.ศ. 2505 ถูกพรากจากภรรยาและลูก ๆ ขณะที่การเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อเสรีภาพในประเทศดำเนินต่อไป
ไมเคิล ลูวาเย นักแสดงผู้เคยรับบทพระเอกในละครเพลงดังอย่าง Hamilton มาแล้ว จะแสดงเป็นประธานาธิบดีผิวดำคนแรกของแอฟริกาใต้ ผู้ชมจะได้สัมผัสกับเรื่องราวอย่างสมจริงแน่นอนเพราะครอบครัวแมนเดลาได้ให้การสนับสนุนทีมงานผู้ผลิตละครเพลงเรื่องนี้โดยตรง
– Mandela จัดแสดงที่ Young Vic ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. ถึง 4 ก.พ. 2566

4. The Great British Bake Off Musical
จะมีอะไรอังกฤษไปกว่าการมาเที่ยวอังกฤษแล้วได้ดูรายการแข่งขันทำขนมที่โด่งดังไปทั่วสหราชอาณาจักรในเวอร์ชั่นละครเพลง? หลังจากที่รายการ The Great British Bake Off ทำให้แฟนๆ หลายล้านคนทั่วประเทศต้องน้ำลายไหลอยู่หน้าจอทีวีมากว่า 10 ปี ถึงเวลาแล้วที่เราจะได้เห็นผู้เข้าแข่งขันทำขนมแบบสดๆ บนเวที แต่คราวนี้จะร้องเพลงและเต้นไปด้วย
หลังวางแผนและพัฒนาบทมานานถึง 5 ปี ผู้ผลิตทีมเดียวกันกับรายการทีวีต้นฉบับจะพาเราไปรู้จักกับตัวละครหลากหลายเส้นทางชีวิตที่จะมาเข้าร่วมการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ, นักเรียน, นักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงหญิงวัยเกษียณ และแน่นอนว่าจะมีพิธีกรและกรรมการตัดสินคอยชิมขนมบนเวทีด้วย
สิ่งที่แตกต่างและน่าตื่นเต้นกว่ารายการทีวีคือนอกจากการแข่งขันที่เต็มไปด้วยเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจและเสียงหัวเราะแล้ว งานดัดแปลงโดยเจค บรูนเจอร์ และ
พิปปา เคลียรี จะเพิ่มเรื่องราวความรักที่ก่อตัวขึ้นระหว่างตัวละครเข้าไปด้วย
– The Great British Bake Off Musical จัดแสดงที่ Noël Coward Theatre ตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ. ถึง 13 พ.ค. 2566 เป็นต้นไป

5. Back to the Future The Musical
การได้เห็นรถ DeLorean สุดคลาสสิกบนเวที (ซึ่งจะลอยขึ้นจริงๆ เหนือคนดู!) น่าจะเป็นเหตุผลที่เพียงพอแล้วที่แฟนๆ Back to the Future จะซื้อบัตรไปดูละครเพลงที่ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์ดังที่ว่าด้วยการเดินทางข้ามเวลา
แต่แน่นอนว่าไม่ใช่แค่นั้น ละครเพลงเรื่องนี้อิงจากภาคแรกของภาพยนตร์ Back to the Future จากเมื่อปี พ.ศ. 2528 โดยบอกเล่าเรื่องราวของมาร์ตี้ แม็กฟลาย เด็กวัยรุ่นที่เดินทางย้อนเวลากลับไปปี พ.ศ. 2498 ด้วยรถที่ประดิษฐ์ขึ้นโดย “ด็อก” เพื่อนนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องของเขา
นอกจากเพลงฮิตจากภาพยนตร์ต้นฉบับอย่าง The Power of Love และ Johnny B. Goode แล้ว เพลงและเนื้อร้องที่แต่งขึ้นใหม่โดยอลัน ซิลเวสทรี และเกล็น บัลลาร์ด จะช่วยให้ผู้ชมได้อรรถรสใหม่ๆ ขณะคอยลุ้นให้พ่อและแม่ของมาร์ตี้ได้ตกหลุมรักกันอีกครั้งใน “อดีต” และให้เขาเดินทางกลับสู่ “อนาคต” ได้สำเร็จ
– Back to the Future The Musical จัดแสดงที่ Adelphi Theatre ถึงวันที่ 23 ก.ค. 2566

ร่วมออกเดินทางเพื่อค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆที่ลอนดอน จองเที่ยวบินไปลอนดอนได้เลยกับการบินไทย