การแสดงแสงสีที่ยิ่งใหญ่ตระการตาจากธรรมชาติอย่าง “แสงเหนือ” (Aurora Borealis) ทำให้ดินแดนแถบขั้วโลกเหนือกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝันของหลายคน เช่นเดียวกับการชม “แสงใต้” (Aurora Australis) ที่กำลังเนื้อหอมอย่างมาก ในขณะที่ชาวนอร์สเชื่อว่า แสงเหนือเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับดินแดนเทพเจ้า ชาวเซลติกและชนพื้นเมืองออสเตรเลียกลับเชื่อว่า แสงใต้เป็นวิญญาณบรรพบุรุษที่เต้นรำอยู่บนท้องฟ้า
ตามล่าหาแสงใต้ในแทสมาเนีย
แสงเหนือ และแสงใต้ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดจากอนุภาคในอวกาศทะลุผ่านชั้นบรรยากาศของโลก ทำให้เกิดการแตกตัวของกลุ่มก๊าซและปลดปล่อยพลังงานออกมาในรูปแบบของสีต่าง ๆ เช่น สีแดง สีเขียว และสีม่วง รวมถึงปรากฏการณ์ต่าง ๆ บนดวงอาทิตย์อย่างพายุสุริยะ โดยแสงออโรราที่เกิดใกล้ขั้วโลกเหนือจะเรียกว่า “แสงเหนือ” แต่ถ้าเกิดใกล้ขั้วโลกใต้จะเรียกว่า “แสงใต้” ทว่าแสงใต้ค่อนข้างหาชมได้ยากกว่าแสงเหนือ เนื่องจากขั้วโลกใต้เดินทางไปถึงได้ยากลำบากกว่า แต่ถึงกระนั้นคุณก็สามารถชื่นชมแสงใต้ได้ที่ เกาะแทสมาเนีย ประเทศออสเตรเลีย เกาะใต้ ประเทศนิวซีแลนด์ Tierra del Fuego ประเทศอาร์เจนตินา และ Patagonia ประเทศชิลี
ปักหมุด 3 จุดชมแสงใต้ยอดนิยมในแทสมาเนีย
ด้วยความสวยงามของแสงใต้แห่งแทสมาเนีย ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมวางแผนการเดินทางไปชมแสงใต้กันมากขึ้น แม้จะเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นตลอดปี แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวคือ ฤดูหนาวและต้นฤดูใบไม้ผลิระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน เรามี 3 หมุดหมายที่จะช่วยให้คุณชื่นชมความงามของแสงใต้ได้อย่างชัดเจน ได้แก่
1) Cradle Mountain-Lake St Clair National Park
อุทยานแห่งชาติที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสถานที่สวยงามที่สุดของออสเตรเลีย ผืนป่าเมอร์เทิล (Myrtle Forests) อายุ 60 ล้านปี เป็นหนึ่งในสถานที่ชมแสงใต้ที่มีทะเลสาบ Cradle หรือ Dove เป็นฉากหลังอันงดงาม
2) Bruny Island
สถานที่พักผ่อนยอดนิยมที่อยู่ห่างจากเมืองโฮบาร์ตเพียง 30 นาที ที่นี่เป็นสวรรค์ของสัตว์ป่าและธรรมชาติอันงดงาม ไฮไลต์อยู่ที่ The Neck จุดชมแสงใต้ท่ามกลางทิวทัศน์ของหมู่เกาะ ทะเล และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว