ที่นี่มีทั้งธรรมชาติที่น่าตื่นตา มีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่หลากหลาย ทั้งเวิ้งอ่าวที่มีหาดทรายขาวและน้ำทะเลสีฟ้าใส มีภูเขา หน้าผาสูงชัน และเส้นทางธรรมชาติให้ไฮกิงหรือเทรกกิง มีหมู่บ้านชาวประมงมากมายที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวเกาะโลโฟเตนได้ทุกฤดูกาล หากไปในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว ในยามค่ำคืนอาจมีโอกาสได้เห็นปรากฏการณ์แสงเหนือเป็นโบนัสของการเดินทาง แต่หากไปในช่วงฤดูร้อน ทุกคืนจะได้ชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนอย่างฉ่ำใจทุกวันตลอดเวลากว่า 3 เดือน
กิจกรรมช่วงฤดูร้อน
ด้วยความที่ตั้งอยู่บนเส้นละติจูดที่ 68 ใกล้กับเขตขั้วโลกเหนือ ดังนั้นแม้จะเป็นช่วงฤดูร้อน แต่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลโฟเตน ช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมกลับอยู่ที่ราว ๆ 8 ถึง 15 องศาเซลเซียส มีฝนตกน้อย จึงเอื้อให้ทำกิจกรรมได้หลากหลาย เช่น ไฮกิง ปีนเขา ตกปลา ดำน้ำลึก ดำน้ำตื้น พายคายัก เล่นเซิร์ฟ หรือแม้แต่การจัดทริปถ่ายภาพลัดเลาะไปตามหมู่บ้านต่าง ๆ ของเกาะโลโฟเตนเพื่อมองหาทิวทัศน์แสนอลังการ ส่วนกิจกรรมที่เป็นไฮไลต์ของฤดูร้อนคือการชมพระอาทิตย์เที่ยงคืน ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ทำให้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นตั้งแต่เช้าไปจนถึงเที่ยงคืน นอกจากจะเรียกว่า Midnight Sun แล้ว ยังมีชื่อเรียกอื่น ๆ เช่น Polar Day, White Night และ Nightless Night
แทนที่จะชื่นชมความสวยงามของพระอาทิตย์ในยามค่ำคืนเพียงอย่างเดียว ชาวเกาะโลโฟเตนมักถือโอกาสที่ช่วงเวลากลางวันกินเวลายาวนาน ออกมาทำกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ปิกนิกอาหารค่ำ พายคายัก แคมปิง หรือแม้แต่ออกไปตกปลาทะเลยามค่ำคืน โดยสามารถเดินทางจากเมือง Svolvær, Henningsvær, Eggum หรือ Ballstad