1 วันกับ 3 พิพิธภัณฑ์ไฮไลต์ของอิสตันบูล

เ

ช้า: Istanbul Archaeological Museums ย้อนเวลาสู่อารยธรรมโบราณ

พิพิธภัณฑ์โบราณคดีที่สำคัญที่สุดของทูร์เคีย ทั้งยังเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ของจักรวรรดิออตโตมัน (Ottoman) จัดแสดงโบราณวัตถุและผลงานทางศิลปะมากกว่าหนึ่งล้านชิ้น ครอบคลุมเกือบทุกยุคและทุกอารยธรรมในประวัติศาสตร์โลก

ภายในแบ่งออกเป็นสามส่วนหลัก ได้แก่

Archaeology Museum อาคารสไตล์นีโอคลาสสิกที่รวบรวมประติมากรรมและหีบศพโบราณที่สำคัญ อาทิ หีบศพรูปมนุษย์จากไซดอน (Anthropoid Sarcophagi from Sidon) หีบพระศพของอเล็กซานเดอร์มหาราช (The Alexander Sarcophagus) หีบศพสตรีไว้ทุกข์ (Mourning Women Sarcophagus) ที่ล้วนเต็มไปด้วยลายละเอียดอันน่ามหัศจรรย์

Museum of the Ancient Orient อาคารอายุ 140 ปี ที่จัดแสดงโบราณวัตถุอาหรับก่อนยุคอิสลาม (Pre-Islamic Arabian Art) โดยรวบรวมมาจากอาณาจักรออตโตมัน ผลงานเด่นในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เช่น กระเบื้องเคลือบอันเคยเป็นส่วนหนึ่งของกำแพงและประตูอิชตาร์ (The Ishtar Gate) แห่งเมืองบาบิโลน (Babylon) รวมถึงสนธิสัญญาแห่งคาเดช (Treaty of Kadesh) ซึ่งเป็นสนธิสัญญาสันติภาพที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

The Tiled Kiosk Museum อาคารที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดาพิพิธภัณฑ์ทั้งสามหลัง สร้างขึ้นในปี 1472 ภายในจัดแสดงกระเบื้องอิซนิค (Iznik) จากศตวรรษที่ 14-17 และงานเซรามิกตั้งแต่ ยุคอาณาจักรเซลจุค (Seljuk) อนาโตเลียน (Anatolian) และออตโตมัน (Ottoman)

Tips

• พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ติดกับพระราชวังทอปคาปิ หากมีเวลาไม่มาก แนะนำให้ไปชมพระราชวังตอนเช้า แล้วกลับมาชมพิพิธภัณฑ์ตอนบ่าย
• บัตร Museum Pass Istanbul ครอบคลุมการเข้าชมได้ทั้งพระราชวังและพิพิธภัณฑ์กว่า 10 แห่งทั่วอิสตันบูล รวมถึงพระราชวังทอปคาปิ และพิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งนี้ด้วย

กลางวัน: THE MUSEUM OF INNOCENCE บทบันทึกยุคสมัยผ่านวรรณกรรมระดับโลก

พิพิธภัณฑ์ที่สร้างจากวรรณกรรมชื่อเดียวกันของ ออร์ฮัน พามุค (Orhan Pamuk) นักเขียนรางวัลโนเบล ที่ได้รับความนิยมและมีการตีพิมพ์มากถึง 60 ภาษาทั่วโลก เนื้อหาเล่าถึงเรื่องราวความรักต้องห้ามระหว่างเคมาล (Kemal) นักธุรกิจชนชั้นสูง และฟูซุน (Füsun) หญิงสาวธรรมดาผู้เป็นญาติห่าง ๆ

โดยจุดประสงค์ของการสร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็เพื่อจัดแสดงสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์และความทรงจำของตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋าถือ เข็มกลัด กระทั่งซองบุหรี่ ฯลฯ โดย ออร์ฮาน ปามุก มีความคิดที่จะสร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งแต่เริ่มต้นเขียนนิยาย ทว่าหนังสือได้รับการตีพิมพ์ออกมาก่อนในปี 2008 และอีกสี่ปีต่อมาพิพิธภัณฑ์แห่งความไร้เดียงสาจึงได้เปิดให้เข้าชม

ความพิเศษของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือ นอกจากจะเล่าถึงโศกนาฏกรรมความรัก ผู้เขียนยังได้สอดแทรกสภาพสังคมและการเมืองผ่านฉากหลังของเมืองอิสตันบูลในทศวรรษที่ 70s ไว้อย่างน่าสนใจ พิพิธภัณฑ์แห่งความไร้เดียงสาจึงนับเป็นบทบันทึกยุคสมัยที่ควรค่าแก่การไปเยือน

บ่าย: ISTANBUL MODERN ศิลปะร่วมสมัยที่กลมกลืนไปเมืองเก่า

พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัยแห่งแรกของทูร์เคีย ก่อตั้งขึ้นในปี 2004 ด้วยการเปลี่ยนโกดังเก็บสินค้าเก่าทางทะเลให้กลายเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ Istanbul Modern ได้ฟื้นฟูพื้นที่ริมน้ำที่ครั้งหนึ่งเคยเข้าถึงยากให้กลายเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองและกลมกลืนไปกับโครงสร้างของเมือง โดยมีทั้งห้องนิทรรศการ โรงภาพยนตร์ ห้องสมุด ร้านอาหาร ร้านขายของตกแต่ง

ในปี 2018 พิพิธภัณฑ์ Istanbul Modern ได้ก่อสร้างอาคารหลังใหม่อันไม่ไกลจากพื้นที่เดิม และเพิ่งเปิดให้เข้าชมอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม 2023 โดยตัวอาคารได้รับการออกแบบโดย เรนโซ เปียโน (Renzo Piano) สถาปนิกชาวอิตาลีผู้ซึ่งเคยออกแบบผลงานเลื่องชื่ออย่าง ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรมแห่งชาติฌอร์ฌปงปีดู (Centre Georges-Pompidou) ใจกลางนครปารีส

อยากไปเที่ยวอิสตันบูล จองเที่ยวบินไปกับการบินไทยได้เลย!