โรคระบาดครั้งใหญ่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการดำเนินการและการจัดการต่างๆ ในโตเกียว แต่เมืองนี้ก็ยังคงเดินหน้าต่อไปด้วยพลังอันเต็มเปี่ยม คุณสามารถชมการฉายแสงจากตึกระฟ้าที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือศูนย์กลางย่านธุรกิจ เดินสำรวจตรอกซอกซอยของชิบูย่าและชินจูกุ ชมวิวจากสวนบนชั้นดาดฟ้ายันเดินเล่นในย่านอันคึกคัก
โตเกียวสามารถข้ามพ้นจากการล็อกดาวน์อันยาวนานมาได้ด้วยพลังแห่งความหวัง โดยมีการพัฒนาใหม่ๆ เกิดขึ้นในเมืองพร้อมกับความเชื่อมั่นที่ว่าจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ญี่ปุ่นได้เปิดพรมแดนอีกครั้งด้วยความตั้งใจที่อยากต้อนรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวอีกครั้ง และนี่คือสิ่งที่ควรไปทำที่โตเกียวตอนนี้
1. สำรวจย่านชิโมคิตะซาวะ
ย่านนี้โด่งดังในเรื่องไลฟ์สไตล์แบบโบฮีเมียน ศิลปะกับดนตรีแนวอินดี้ คาเฟ่สุดเก๋ และเต็มไปด้วยร้านค้าแฟชั่นมือสองที่เลือกสรรของมาอย่างดี คนในพื้นที่เรียกชื่อชิโมคิตะซาวะสั้นๆ ว่า ชิโมคิตะ ย่านนี้ได้เริ่มพัฒนาในช่วงโรคระบาดครั้งใหญ่ จึงทำให้ที่นี่ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่วัยรุ่นญี่ปุ่นที่ชื่นชอบแฟชั่นด้วยการเพิ่มพื้นที่อันทันสมัยอย่าง Reload Shimokita โรงแรมสุดฮิปอย่าง Mustard และพื้นที่กลางแจ้งที่เป็นมิตรต่อสัตว์เลี้ยงอย่าง Shimokita Senrogai Akichi นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวของสถานประกอบการใหม่อย่างร้านที่เชี่ยวชาญด้านกาแฟโดยเฉพาะ ร้านอิซากายะสุดเท่ และร้านเสื้อผ้าสไตล์แหวกแนว
ชิโมคิตะยังเป็นที่ตั้งของร้านกาแฟโดย Studio Ghibli ที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Tolo Coffee and Bakery ซึ่งคุณสามารถซื้อชูครีมที่มีรูปร่างเหมือนตัวละครอันโด่งดังที่สุดของค่ายแอนิเมชั่นนี้อย่าง Totoro

2. หลงใหลไปกับโลกของ Hayao Miyazaki ที่พิพิธภัณฑ์ Ghibli Museum
หากคุณโตมากับศิลปะและแอนิเมชั่นของ ฮายาโอะ มิยาซากิ ขอแนะนำให้ไปยังรอบนอกของใจกลางกรุงโตเกียวเพื่อไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ Ghibli Museum ซึ่งตั้งอยู่ภายในสวนอิโนะกะชิระที่มิกาตะ โดยคฤหาสน์อันน่าอัศจรรย์นี้จะสร้างประสบการณ์ให้คุณเสมือนได้อยู่ในภาพยนตร์เรื่องหนึ่งของ Hayao Miyazaki มาพบปะกับตัวละครที่คุณคุ้นเคยได้อย่างใกล้ชิด เช่น หุ่นยนต์จาก Castle in the Sky และ Totoro ที่เป็นคนเฝ้าประตู ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังมีโรงละครขนาดเล็กที่ไว้โชว์ภาพยนตร์ฉบับสั้นของจิบลิซึ่งไม่เผยแพร่ที่ไหนมาก่อน
ที่พิพิธภัณฑ์จะไม่มีการจำหน่ายตั๋วในการเข้าชม แนะนำให้คุณวางแผนซื้อล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ของ JTB บริษัทตัวแทนท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น หรือแพลตฟอร์มตั๋วออนไลน์ของร้านสะดวกซื้อ Lawson เท่านั้น

3. พักผ่อนในสวนบนชั้นดาดฟ้าอันเขียวชอุ่ม
พื้นที่สาธารณะที่เจ๋งที่สุดของโตเกียวล้วนตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้าของห้างสรรพสินค้าและอาคารต่างๆ ซึ่งมีมาตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ ภายในสวนสาธารณะและสวนบนชั้นดาดฟ้าเหล่านี้ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม และได้กลายเป็นสถานที่สำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีจากตึกรามบ้านช่องที่มีผู้คนหนาแน่น จึงตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองหลังวิกฤตโควิดได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีสวนสาธารณะมิยาชิตะที่เพิ่งปรับปรุงใหม่ ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่กว่า 10,000 ตร.ม. ตั้งอยู่ใจกลางชิบูย่า นอกจากนี้ที่สวนสาธารณะยังมีพื้นที่สำหรับเล่นกีฬาหลากหลายชนิด รวมไปถึง ลานสเก็ต และหน้าผ้าจำลอง
Ginza Six ถือเป็นพื้นที่บนชั้นดาดฟ้าอีกแห่งที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนอันสดชื่นพร้อมวิว 360 องศาของเส้นขอบฟ้ากลางกรุงโตเกียว และยังเป็นหนึ่งในแหล่งช้อปปิ้งอันมีชื่อเสียงที่สุดของเมือง พร้อมสวนขนาด 4,000 ตร.ม. ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม มีทั้งขั้นบันไดและลานที่ทำจากไม้มากมายสำหรับให้ผู้คนมานั่งพักผ่อนและอ่านหนังสือที่ซื้อมาจากร้านหนังสือ Tsutaya ซึ่งตั้งอยู่ชั้นล่างของสวน

4. เดินบนถนนที่รายล้อมไปด้วยต้นแปะก๊วยสีทอง
แม้ว่าฤดูใบไม้ผลิในโตเกียวจะเป็นช่วงทุกคนอยากไปชมความงามของดอกซากุระ แต่นางเอกของฤดูใบไม้ร่วงก็ต้องยกให้ต้นแปะก๊วยสีทองอันสุกสกาว โดยใบของต้นไม้อันสูงตระหง่านนี้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนทั่วทั้งเมือง คุณสามารถชมต้นแปะก๊วยที่เรียงรายตามถนนสายหลักของโตเกียวได้ตามจุดต่างๆ เช่น ถนนสายหลักของเมจิ จิงงูไกเอ็นในชินจูกุและ Showa Memorial Park ในอากิชิมะ
5. เลือกทานอาหารตามใจปากที่เดปาจิงกะ
โตเกียวนับว่าเป็นเมืองที่มีร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์มากที่สุด แต่ถ้าคุณกำลังมองหาอาหารที่รวดเร็วและราคาสมเหตุสมผล ขอแนะนำให้ไปยังศูนย์อาหารใต้ดินหรือที่เรียกว่าเดปาจิกะซึ่งตั้งอยู่หลายแห่งในเมือง โดยส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ที่ชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้า นี่คือสวรรค์แห่งอาหารคุณภาพพรีเมียมซึ่งเต็มไปด้วยของอร่อยที่มีให้เลือกสรรหลากหลายชนิด ตั้งแต่เทมปุระไปจนถึงซาซิมิที่สดใหม่ ขนมปังและขนมอบที่ทำขึ้นอย่างประณีต เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกลิ้มรสอาหารสำหรับมื้อสุดพิเศษ
เดปาจิกะที่ดีที่สุดก็คือ Shibuya Tokyu Foodshow ที่อยู่ติดกับสถานีชิบูย่าซึ่งเป็นที่ดึงดูดทั้งคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ภายในจะมีสามโซนที่จำหน่ายวัตถุดิบสดใหม่และอาหารรสเลิศ นอกจากนี้ยังมี Ikebukuro Tobu ซึ่งเป็นเดปาจิกะที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยพื้นที่ 10,000 ตร.ม. และ Daimaru ที่สถานีโตเกียว ซึ่งคุณสามารถเลือกสรรเบนโตะได้มากกว่า 1,000 ชนิด
6. ให้รางวัลตัวเองด้วยมื้ออาหารแบบไคเซกิ
มอบรางวัลให้ตัวเองด้วย ไคเซกิ หรืออาหารคอร์สที่นำเสนอออกมาอย่างประณีตพร้อมประสบการณ์การทานอาหารที่เหนือชั้น ซึ่งร้าน Den ได้รับการโหวตให้เป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชียแห่งปี 2022 โดยเป็นไคเซกิแนวญี่ปุ่นที่ปรุงรสด้วยวีธีการแบบอาหารยุโรป ส่วนร้าน Daigo ก็โดดเด่นด้วยการเสิร์ฟอาหารแนวโชจินเรียวริหรืออาหารมังสวิรัติสำหรับชาวพุทธในบรรยากาศอันเงียบสงบ ในขณะที่ Kien เสิร์ฟอาหารระดับมิชลินสตาร์ในราคาที่ทุกคนสามารถจับต้องได้

7. เข้าคลาสศิลปะแบบคินสึกิ
คินสึกิคือศิลปะของญี่ปุ่นที่ใช้แล็กเกอร์ผงสีทองเพื่อซ่อมเครื่องปั้นดินเผาที่แตก ศิลปะแนวนี้เป็นสัญลักษณ์ของความหวังใหม่และการเริ่มต้นใหม่ ซึ่งสะท้อนถึงชีวิตปัจจุบันหลังจากที่ทุกคนประสบกับวิกฤติโรคระบาดและสามารถก้าวข้ามผ่านมาได้ คลาสคินสึกิอาจเป็นการเรียนศิลปะที่เหมาะกับการเยียวยาจิตใจ สามารถจองเวิร์กช็อปแบบเร่งรัดได้ในร้านค้าอย่าง Taku Nakano Ceramic Arts (TNCA) ที่อาโอยามะหรือ Kuge Crafts ที่ซูกินามิ

8. จิบคราฟต์เบียร์สไตล์ญี่ปุ่น
การผลิตมอลต์ที่หมักเองก็ถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่าในดินแดนแห่งเหล้าสาเก วิสกี้ และเบียร์ซัปโปโร เมื่อช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คราฟต์เบียร์ได้ขึ้นแท่นเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยอดนิยมในโตเกียว และปัจจุบันเมืองนี้ก็เต็มไปด้วยร้านที่ขายไอพีเอและสเตาท์ ซึ่งมักจะเสิร์ฟเคียงคู่กันกับ อาหารดีๆ ขอแนะนำให้ไปลอง YYG Brewery หรือที่รู้จักกันว่าชื่อ Yoyogi Brewery ในชินจูกุซึ่งผลิตเบียร์ Shinjuku Pale Ale เบียร์สดชื่นเคล้ากลิ่นคาราเมล ต่อด้วยร้าน Shinsu Osake Mura ที่ชินบาชิ ซึ่งคุณสามารถดื่มเบียร์ท้องถิ่นได้ เช่นเบียร์ Shiga Kogen ในราคาต่ำกว่า 300 เยน หรือร้าน Two Fingers ในอิเคะบุคุโระที่คุณสามารถดื่มเบียร์เพลเอลกับเต้าหู้โฮมเมดอันเลิศรส

9. โอบกอดหมูไซส์จิ๋วในคาเฟ่ที่แปลกใหม่
โตเกียวได้ยกระดับคาเฟ่สัตว์ขึ้นไปอีกขั้นด้วยการเปิดตัว Mipig ซึ่งเป็นบ้านของหมูไซส์จิ๋วที่ตัวเล็กมากจนสามารถใส่ลงในถ้วยน้ำชาได้ จิบชามัทฉะในขณะที่ลูกหมูตัวอุ่นๆ ขดตัวนอนอยู่บนตักของคุณหรือเดินสะดุดขาคุณ เจ้าหมูจิ๋วเหล่านี้มักจะชอบส่งเสียงร้องด้วยความร่าเริง แถมยังเป็นมิตร ไม่มีกลิ่นและยังสามารถซื้อกลับบ้านไปเป็นสัตว์เลี้ยงได้อีกด้วย ซึ่งเจ้าหมูพันธุ์นี้สามารถโตได้ถึงน้ำหนัก 40 กก. คาเฟ่แห่งนี้เปิดตัวขึ้นเพื่อเป็นการเปลี่ยนแนวคิดที่ว่าหมูเป็นสัตว์ที่สกปรก ไม่น่ารัก และไม่สามารถเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านได้ แวะไปเล่นกับเจ้าหมูจิ๋วกันได้ที่คาเฟ่ Mipig ที่ตั้งอยู่ที่เมงูโระและอีกหนึ่งแห่งที่ฮาราจูกุ

10. เข้าชมสนามกีฬาแห่งชาติญี่ปุ่นแห่งใหม่
การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงโตเกียวปี 2020 มีความโดดเด่นที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก สาเหตุแรกคือการจัดงานที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤติโรคระบาดครั้งใหญ่ ซึ่งส่งผลกระทบให้ประเทศส่วนใหญ่ต่างปิดพรมแดนกัน และสาเหตุที่สองคืองานได้จัดขึ้นจริงในปี 2021 ทุกคนที่ได้เดินทางกลับมาญี่ปุ่นอีกครั้งจะได้เห็นทุกอย่างที่ชาวญี่ปุ่นสร้างขึ้นสำหรับโอลิมปิกฤดูร้อนอันตระการตา ตัวเอกของงานอย่างสนามกีฬาแห่งชาติญี่ปุ่นที่ออกแบบโดย Kengo Kuma และกลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นในขณะที่โลกกำลังให้ความสำคัญต่อความยั่งยืนและสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมมากกว่าความฟุ่มเฟือย โดยสนามกีฬาแห่งนี้สร้างสรรจากคอนกรีต เหล็กและไม้ รวมถึงไม้ซีดาร์ซึ่งมาจาก 47 จังหวัดของญี่ปุ่นที่ประกอบเป็นผนังภายนอก จนกลายเป็นผลงานชิ้นเอกที่ดูโปร่งสบายด้วยออกแบบอย่างชาญฉลาด นอกจากนี้ยังมีมีระเบียงอันเขียวขจีที่ล้อมรอบสนามกีฬา เข้ากับสภาพแวดล้อมที่สวน Meiji Jingu เป็นที่สุด อีกหนึ่งจุดเด่นของสนามกีฬาที่ไร้เครื่องปรับอากาศแห่งนี้ก็คือการเพิ่มประสิทธิภาพให้ลมตามธรรมชาติถ่ายเทเข้ามาได้ ไม่ว่าใครก็สามารถสัมผัสได้ถึงการออกแบบที่ลงตัวของเขา
ร่วมออกเดินทางเพื่อค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆที่โตเกียว จองเที่ยวบินไปโตเกียวได้เลยกับการบินไทย