แฟรงก์เฟิร์ต อัม ไมน์ คือชื่อทางการของเมืองแห่งนี้ที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ในเยอรมนี และเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของทวีปยุโรป แต่แฟรงค์เฟิร์ตมีสิ่งที่น่าสนใจมากกว่าแค่ตึกระฟ้าสูงตระหง่านในย่านธนาคาร โดยมีสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจอยู่เคียงข้างอาคารยุคกลาง นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ โรงละคร และโรงอุปรากรที่ตั้งอยู่ทั่วเมือง ซึ่งเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับบาร์ คลับ และร้านอาหาร คุณสามารถเลือกที่จะเดินผ่านสวนสาธารณะอันเขียวขจีหรือจะก้าวเข้าสู่ร้านบูติกสุดหรูก็ได้ แนะนำให้ลิ้มลองเมนูระดับดาวมิชลินหรืออาหารท้องถิ่นแสนอร่อย หากไปในช่วงเดือนธันวาคมก็จะได้สวมชุดฤดูหนาวและเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มร้อนเคล้าอาหารท้องถิ่นที่ตลาดคริสต์มาสอันสวยงาม
นอกจากแฟรงก์เฟิร์ตจะเป็นที่รู้จักในนาม “Mainhattan” แล้ว หลังจากที่ผ่านวิกฤตโรคระบาดครั้งใหญ่ เมืองแห่งนี้ก็กลับมามีชีวิตชีวาและมีความสร้างสรรค์พลุ่งพล่านมากขึ้นกว่าเดิม โดยมีโรงแรมดีไซน์ใหม่ๆ และนิทรรศการมากมาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมแฟชั่นที่กำลังขยายตัว โดยการมีแฟชั่นวีคของตัวเอง นี่เป็นเพียงบางส่วนที่คุณจะได้สัมผัสเมื่อมายังแฟรงก์เฟิร์ต

1. ดื่มด่ำไปกับประวัติศาสตร์
ใจกลางศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมืองคือจัตุรัสโรเมอร์ที่ปูพื้นด้วยหินและมีอาคารยุคกลางเรียงราย รวมไปถึง Römer ซึ่งเป็นศาลากลางของแฟรงก์เฟิร์ตมาตั้งแต่ปี 1405 ใกล้ๆ กันคืออาคารที่สร้างขึ้นใหม่เมื่อเร็วๆ นี้ เรียกว่า “New Old Town” ซึ่งเป็นย่าน Dom-Römer ซึ่งมีซากของนิคมโรมันในอดีต พระราชวังอิมพีเรียลย้อนไปถึงสมัยการอแล็งเฌียง ร้านค้าและคาเฟ่ที่มีเสน่ห์มากมายตั้งอยู่ในอาคารประวัติศาสตร์ที่สร้างขึ้นใหม่อย่างไร้ที่ติ

2. ซึมซับศิลปะและวัฒนธรรม
แฟรงค์เฟิร์ตมีพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์มากมาย โดยมี 13 แห่งตั้งอยู่ที่ Museumsufer (Museum Embankment) ริมฝั่งทางใต้ของแม่น้ำ Main ที่พลาดไม่ได้คือพิพิธภัณฑ์
สเตเดลอันเป็นมูลนิธิพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดของเยอรมนี ซึ่งมีการจัดแสดงผลงานศิลปะของยุโรปที่มีอายุกว่า 700 ปี และมีคอลเล็กชั่นถาวรซึ่งจัดแสดงผลงานอย่าง Pablo Picasso และ Andy Warhol ส่วนใครที่ท่องเที่ยวเป็นครอบครัวขอแนะนำให้ไปยังพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ Senckenberg ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป

3. เพลิดเพลินกับอาหารนานาชาติ
ต้องขอบคุณชุมชนนานาชาติอันมีชีวิตชีวาของแฟรงค์เฟิร์ตซึ่งมีผู้อยู่อาศัยมาจาก 177 ประเทศทั่วโลก ที่ทำให้อาหารของเมืองนี้มีความอร่อยที่หลากหลาย แนะนำให้มุ่งหน้าไปที่ Ramen Muku เพื่อชิมราเม็งโฮมเมดชั้นยอด ต่อด้วย Bar Shuka อันทันสมัย สำหรับอาหารคลาสสิกของอิสราเอลรวมถึงซาบิห์และชักชูก้า และเพลิดเพลินกับกาแฟและเค้กยามบ่ายแบบเยอรมันที่ Bitter & Zart กับ Frankfurter Kranz ไซส์เล็กที่ประกอบด้วยชั้นของเค้กสปันจ์ บัตเตอร์ครีม แยม และอัลมอนด์คร็อกเก้นต์

4. สำรวจเมืองสีเขียว
เมืองที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนีแห่งนี้เป็นที่ตั้งของป่าในเมืองและมีสวนสาธารณะไม่น้อยกว่า 40 แห่ง ซึ่งล้อมรอบด้วยพื้นที่สีเขียวตามธรรมชาติ มากกว่าครึ่งหนึ่งของเขตเมืองในแฟรงค์เฟิร์ตถูกโอบล้อมด้วยภูมิทัศน์ธรรมชาติ พักผ่อนบนฝั่งทางเหนือของเมนที่ Nizzagärten (สวนของนีส) อันเป็นโอเอซิสของพืชแถบเมดิเตอร์เรเนียน รวมไปถึงต้นมะเดื่อ ต้นปาล์ม และส้ม หรือหากต้องการประสบการณ์ด้านการศึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้แวะไปที่ Palmengarten สวนพฤกษศาสตร์ของแฟรงค์เฟิร์ต เพื่อสำรวจป่าฝน ป่าชายเลน และทะเลทรายอันแห้งแล้งของ Tropicarium
5. รื่นรมย์ไปกับการช้อปปิ้ง
หากคุณกำลังมองหาร้านค้าปลีกชั้นนำ แนะนำให้มุ่งหน้าไปยัง Brückenstraße เพื่อเลือกซื้อเสื้อผ้า จิวเวลรี่ และเครื่องประดับจากแบรนด์ที่สร้างสรรค์โดยดีไซเนอร์ท้องถิ่น เริ่มจากห้างสรรพสินค้าใหญ่อย่าง Zeil ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าระดับโลกต่อด้วยห้างสรรพสินค้า MyZeil นอกจากนี้ยังมี Goethestraße แหล่งรวมร้านบูติกสุดพิเศษที่มีแบรนด์ดีไซเนอร์ชื่อก้องโลกอย่าง Hermès, Cartier และ Chanel หากใครที่ชื่นชอบอาหารมากกว่าเสื้อผ้า ควรไปยังตลาดในร่ม Kleinmarkthalle ซึ่งเป็นสถานที่ที่เสิร์ฟอาหารเลิศรสทั้งระดับภูมิภาคและระดับโลก

6. ตามใจตัวเอง
โรงแรมหรูในเมืองแห่งนี้มักจะเป็นที่ตั้งของสปาชั้นเลิศ โดยสปาที่ได้รับรางวัลตั้งอยู่ในโรงแรมแห่งประวัติศาสตร์อย่าง Steigenberger Frankfurter Hof คุณจะได้สัมผัสกับสปาระดับพรีเมียม ทรีทเมนท์ความงามและการบำบัดเพื่อความผ่อนคลายที่มีให้เลือกสรรอย่างหลากหลาย รวมทั้งห้องสวีทสปาใต้แสงเทียน พร้อมห้องซาวน่าส่วนตัว พื้นที่สำหรับอาบน้ำ และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือห้องสตีมบาธแบบตุรกี ในขณะที่สาวๆ กำลังเพลิดเพลินอยู่กับสปา ขอแนะนำให้หนุ่มๆ ไปลองใช้บริการที่ร้าน Gentleman Barber Shop ในโรงแรม ที่มีบริการกรูมมิ่งทั้งแบบสมัยใหม่และแบบดั้งเดิม ตกแต่งด้วยเก้าอี้ตัดผมสไตล์วินเทจอันหรูหราและนั่งสบาย
7. ลิ้มรสไซเดอร์ท้องถิ่น
แฟรงก์เฟิร์ตโด่งดังในด้านไซเดอร์รสเปรี้ยวที่รู้จักกันในชื่อ Apfelwein แนะนำให้ไปยัง Apfelweinstube (โรงเหล้าไซเดอร์) ที่ตกแต่งแนวเรียบง่าย โดยมีตัวเลือกที่น่าลิ้มลองอย่าง Apfelwein Wagner และ Zum Gemalten Haus ที่ถนน Schweizer Straße แนะนำให้ลองดื่มเคล้าอาหารพื้นเมืองจานพิเศษ เช่น ไข่ต้มกับซอสสมุนไพรสีเขียว หรือหมูสับกับกะหล่ำปลีดองและมันฝรั่งบด หากเหล้าไซเดอร์ Apfelwein แรงไปสำหรับคุณ สามารถสั่งให้เป็นแบบเจือจางได้ด้วยการผสมน้ำอัดลมหรือน้ำมะนาว
8. เพลิดเพลินไปกับอาหารระดับมิชลินสตาร์
ในบรรดาร้านอาหารอันหลากหลายของแฟรงก์เฟิร์ต มีเพียงร้านอาหาร 10 แห่งที่มีดาวมิชลิน 12 ดวง แนะนำให้ไปยัง Seven Swans ซึ่งเป็นร้านอาหารมังสวิรัติแห่งแรกของโลกที่ได้รับดาวมิชลิน ประกอบไปด้วยคอร์สสุดพิเศษอันหลากหลายที่เป็นเมนูปลอดเนื้อสัตว์ หรือจะเพลิดเพลินไปกับการชมทัศนียภาพอันงดงามของเมืองจากชั้น 53 ที่ Main Tower Restaurant & Lounge ซึ่งเซ็ตเมนูประกอบด้วย ปลาทูน่าครีบน้ำเงินเสิร์ฟพร้อมคาเวียร์อิมพีเรียลโกลด์ ดาชิ และแตงกวา
ร่วมออกเดินทางเพื่อค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆที่แฟรงก์เฟิร์ต จองเที่ยวบินไปแฟรงก์เฟิร์ตได้เลยกับการบินไทย