• Skip to primary navigation
  • Skip to main content
  • Skip to footer

Sawasdee

Sawasdee
  • Inspiration
  • Food & Drink
  • บทความภาษาไทย
  • Thai Airways
  • Download e-Magazine
  • Toggle Search

    City Guides

    Bangkok

    Chiang Mai

  • Facebook

City Guides

Chiang Mai

Bangkok

ภูเขาไฟโบรโม (เครดิตรูปภาพ: iStockphoto)

พาไปพิชิตภูเขาไฟโบรโมและคาวาอีเจียนที่อินโดนีเซีย

ภูเขาไฟโบรโม (เครดิตรูปภาพ: iStockphoto)

บทความภาษาไทย

เตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทางไปสัมผัสสองสถานที่ท่องเที่ยวติดอันดับท็อปบนเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งตั้งอยู่บนแนววงแหวนแห่งไฟ หรือ Ring of Fire แนวภูเขาไฟที่ยังคงคุกรุ่นกระจายอยู่โดยรอบของมหาสมุทรแปซิฟิก

July 1, 2024

Text: Sawasdee

2 min read

Facebook LinkedIn Line Viber Pinterest Twitter Email

เกาะชวา ของประเทศอินโดนีเซียถือเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวสายผจญภัย เพราะมีธรรมชาติอันแปลกตาที่เอื้อต่อการทำกิจกรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่า เที่ยวน้ำตก หรือแม้แต่การปีนภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ แต่ก็ปลอดภัยพอจะเชื้อเชิญให้นักเดินทางต่างเข้ามาสัมผัส ทั้งภูเขาไฟโบรโมและคาวาอีเจียน เดินทางไปไม่ยาก แต่ต้องฟิตร่างกายสักเล็กน้อยเนื่องจากต้องปีนเขาเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร


ภูเขาไฟโบรโม


ภูเขาไฟโบรโมตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ โบรโม เทงเกอร์ เซมารู (Bromo Tengger Semeru National Park) ในเขตชวาตะวันออก ที่นี่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ลมหายใจของพระเจ้า” เนื่องจากเป็นภูเขาไฟที่ยังคงคุกรุ่นอยู่ และนักท่องเที่ยวก็สามารถปีนขึ้นไปได้จนถึงปากปล่องภูเขาไฟเลยทีเดียว หากอยากสัมผัสกับภูเขาไฟโบรโมให้เต็มอิ่มที่สุด เราแนะนำให้เข้าพักที่หมู่บ้านเซโมโร ลาวัง ที่ใกล้กับภูเขาไฟโบรโมมากที่สุดก่อนหนึ่งคืน จากที่นี่จะมีบริการรถจี๊ปของคนท้องถิ่นที่สามารถขับเข้าไปในเขตอุทยานได้

วิวภูเขาไฟโบรโมจากจุดชมวิว (เครดิตรูปภาพ: iStockphoto)
วิวภูเขาไฟโบรโมจากจุดชมวิว (เครดิตรูปภาพ: iStockphoto)

โปรแกรมการท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเริ่มต้นตั้งแต่ตี 3 เพื่อขับรถไปยังเขาเพนันจากัน (Mount Penanjakan) จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่มีฉากเป็นแนวภูเขาไฟโบรโม และเขาเซมารู จากนั้นรถจะวนลงมาจอดด้านล่างแนวเขา จากจุดนี้ต้องเดินเท้าผ่านลานขี้เถ้าภูเขาไฟต่อไปราว 40-50 นาที เส้นทางจะลาดชันขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับใครที่อยากทุ่นแรง สามารถขี่ม้าท้องถิ่นขึ้นไปยังจุดที่ใกล้ตีนเขา เดินต่อไปอีกนิดจะถึงช่วงที่ชันที่สุดคือการไต่บันไดราว 240 ขั้นเพื่อขึ้นไปบนปากปล่องภูเขาไฟ ที่ยังเห็นควันพวยพุ่งออกมาตลอดเวลา หลังจากอิ่มเอมกับการพิชิตยอดเขาแล้ว ถ้ามีเวลาสามารถเดินสำรวจเขาและจุดชมวิวอื่น ๆ โดยรอบได้อีก หรือกลับไปนอนชมวิวจากที่พักในหมู่บ้าน ก่อนจะเดินทางต่อไปยังคาวาอีเจียน

รถจี๊ปสำหรับนำเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติโบรโม (เครดิตรูปภาพ: iStockphoto)
รถจี๊ปสำหรับนำเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติโบรโม (เครดิตรูปภาพ: iStockphoto)
ม้าท้องถิ่นที่ให้บริการนักเดินทาง (เครดิตรูปภาพ: iStockphoto)
ม้าท้องถิ่นที่ให้บริการนักเดินทาง (เครดิตรูปภาพ: iStockphoto)

คาวาอีเจียน


คาวาอีเจียน หรือ อีเจียน เป็นกลุ่มแนวเขาภูเขาไฟที่ยังคงคุกรุ่นอยู่เช่นกัน ใครที่ตั้งใจจะไปเยือนคาวาอีเจียน ล้วนมีจุดหมายใกล้เคียงกัน คือการไปชมเปลวไฟสีน้ำเงิน (Blue Flame) ที่เกิดจากการเผาไหม้ของกำมะถัน และทะเลสาบซัลเฟอร์สีฟ้าเทอคอยส์ ที่ตั้งอยู่บนปากปล่องภูเขาไฟ แต่ทั้งสองอย่างนี้ต้องดูกันคนละเวลา ดังนั้นความสนุกของการมาคาวาอีเจียน จึงอยู่ที่การได้เดินเขาเป็นระยะทางสั้นๆ (แต่เหนื่อย) ในภูมิประเทศที่แปลกตา

ทะเลสาบซัลเฟอร์ (เครดิตรูปภาพ: iStockphoto)
ทะเลสาบซัลเฟอร์ (เครดิตรูปภาพ: iStockphoto)
ทะเลสาบซัลเฟอร์ (เครดิตรูปภาพ: iStockphoto)
ทะเลสาบซัลเฟอร์ (เครดิตรูปภาพ: iStockphoto)

หากต้องการไปดูเปลวไฟสีน้ำเงิน ต้องเริ่มต้นเดินตั้งแต่ตอนกลางคืน เพราะจากจุดเริ่มต้นต้องเดินขึ้นเขาเป็นระยะทางราว 3 กิโลเมตร (ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง) จนถึงจุดพัก จากนั้นเดินต่อไปอีก 1 กิโลเมตรเพื่อไปถึงจุดที่มีเปลวไฟ เสร็จแล้วหากต้องการไปดูทะเลสาบต่อ ต้องเดินย้อนกลับมายังเส้นทางเดิม และเดินต่อไปอีก 1 กิโลเมตร เพื่อไปถึงจุดชมวิวทะเลสาบในตอนเช้า เท่ากับว่าหากอยากเก็บครบทุกจุด เบ็ดเสร็จต้องเดินราว ๆ 10 กิโลเมตร แต่เชื่อเถิดว่าเมื่อได้เห็นวิวที่สวยขาดใจก็ถือว่าคุ้มค่ากับพลังงานที่เสียไป

เปลวไฟสีน้ำเงิน (เครดิตรูปภาพ: iStockphoto)
เปลวไฟสีน้ำเงิน (เครดิตรูปภาพ: iStockphoto)

Tips

  • การเดินทาง: การเดินทางไปภูเขาไฟโบรโมที่สะดวกที่สุดคือการบินมาลงที่สนามบินจาการ์ตา หรือบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย หรือสนามบินกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย จากนั้นต่อเครื่องบินมาลงที่สนามบินสุราบายา นั่งรถต่อมาราว 3 ชั่วโมง จะถึงหมู่บ้านเซโมโร ลาวัง (Cemoro Lawang) หากมีเวลาให้ชิล สามารถเลือกเดินทางโดยรถไฟจากจาร์กาตา ใช้เวลาราว 13 ชั่วโมง มายังสถานีโปรโบลิงโก (Probolinggo) ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านเซโมโร ลาวัง เพียง 1 ชั่วโมงครึ่ง จากภูเขาไฟโบรโมสามารถเดินทางต่อไปยังคาวาอีเจียนซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 200 กิโลเมตร
  • ช่วงเวลา: ภูเขาไฟโบรโมและคาวาอีเจียนสามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เราแนะนำให้ไปช่วงระหว่างเดือนเมษายนถึงตุลาคม ส่วนช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม มักมีฝนตกชุกทำให้เป็นอุปสรรคในการทำกิจกรรมต่าง ๆ
  • ภูมิอากาศ: ทั้งภูเขาไฟโบรโมและคาวาอีเจียนอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลเกิน 2,000 เมตร แม้เวลากลางวันอากาศร้อน แต่ในช่วงกลางคืนอุณหภูมิจะลดต่ำลงมาก เฉลี่ย 5-10 องศาเซลเซียส ควรเตรียมเสื้อกันหนาวไปเผื่อไว้ด้วย

อยากออกเดินทางไปพิชิตภูเขาไฟแห่งเกาะชวา บินไปอินโดนีเซียกับการบินไทยได้เลย

Latest Stories

THAI Products & Services

Premium Caviar

THAI Products & Services

Rose of The Royal Voyage

THAI Products & Services

The New Taste of Rice Crackers

Footer

About Us

  • Our website
  • Advertise with us
  • User agreement
  • Terms and conditions
  • Privacy policy
  • Cookie policy
Thai Airways

Social

  • Facebook
  • Instagram

COPYRIGHT © 2025 Thai Airways International Public Company Limited (THAI). All rights reserved.

A Star Alliance Member
Sawasdee
  • Inspiration
  • Food & Drink
  • บทความภาษาไทย
  • Thai Airways
  • Download e-Magazine
  • Toggle Search

    City Guides

    Chiang Mai

    Bangkok

  • Facebook

City Guides

Chiang Mai

Bangkok

BOOK FLIGHTS NOW