มนต์เสน่ห์ของศิลปะวัฒนธรรมในหางโจว

บทกวีอันโด่งดังของจีนเคยกล่าวว่า “หากฟากฟ้ามีสรวงสวรรค์ บนผืนปฐพีก็มี ซู หัง” โดย “ซู” หมายถึงเมืองซูโจว และ “หัง (หาง)” หมายถึงเมือง หางโจว ที่ต่างงดงามราวสวรรค์บนดิน

หางโจวตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน ห่างจากเซี่ยงไฮ้ประมาณ 180 กิโลเมตร ซึ่งสามารถเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงในระยะเวลาเพียง 45 นาที หางโจวมีชื่อเสียงด้านประวัติศาสตร์อันยาวนานเช่นเดียวกับธรรมชาติที่งดงาม จนได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดของประเทศจีน

ทะเลสาบแห่งอุดมคติ ภูมิทัศน์แห่งอนาคต

หางโจวมีทะเลสาบซีหู (Xihu Lake) หรือ ทะเลสาบตะวันตก เป็นสัญลักษณ์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง โดยทะเลสาบแห่งนี้มีเนินเขาล้อมรอบสามด้าน และอีกด้านเป็นตัวเมือง ภูมิประเทศอันงดงามเช่นนี้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับกวี ศิลปิน และนักปราชญ์มานับพันปี ทะเลสาบซีหูยังมีอิทธิผลต่อการออกแบบภูมิทัศน์ในเมืองอื่น ๆ ของประเทศจีน รวมถึงเกาหลีและญี่ปุ่น เพราะสะท้อนถึงอุดมคติที่มนุษย์และธรรมชาติผสมผสานกันได้อย่างกลมกลืน จนได้รับการบันทึกเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อปี พ.ศ. 2554

นอกจากเป็นเมืองทะเลสาบที่สวยงาม หางโจวยังมีความสำคัญในฐานะเมืองอุตสาหกรรม โดยครั้งหนึ่ง มาร์โก โปโล ได้ขนานนามหางโจวว่าเป็นเมืองที่ดีและงดงามที่สุดในโลก ดังคำกล่าวว่า “It is without a doubt the finest and most splendid city in the world.” เห็นได้จากในยุคสมัยที่เส้นทางสายไหมเฟื่องฟู ท่าเรือของหางโจวเต็มไปด้วยพ่อค้าและนักเดินเรือจากอีกฟากฝั่งทวีป ในทางกลับกันแม้จะเป็นเมืองเก่า แต่หางโจวถือเป็นเมืองที่เติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของจีน โดยปัจจุบันได้ชื่อว่าเป็นเมืองดิจิทัล เป็นศูนย์กลางของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และกำลังจะเป็นเมืองแห่งอนาคต

ชมสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมโบราณ

หางโจวเป็นปลายทางของนักแสวงบุญ โดยมีวัดเก่าแก่ของนิกายมหายานอย่างวัดหลิงอิ่น (Lingyin) ที่มีอายุมากถึง 1,600 ปี และเป็นจุดกำเนิดของอรหันต์ “จี้กง” นอกจากนี้หางโจวยังมีชื่อเสียงด้านใบชา โดยเป็นแหล่งผลิตชาหลงจิ่งที่ดีที่สุดของจีน เห็นได้จากไร่ชากรุ่นกลิ่นหอมที่ทอดตัวไปบนเนินเขาที่สลับซับซ้อนริมทะเลสาบซีหู จึงไม่แปลกที่คนรักชาจากทั่วประเทศจะเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้

หากได้เดินทางมายังหางโจว นอกจากทะเลสาบซีหู วัดหลิงอิ่น และไร่ชาแล้ว แนะนำให้ไปเยือนสวนพฤกษศาสตร์หางโจว (Hangzhou Botanical Garden) พื้นที่วิจัยสีเขียวใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด นอกจากนี้ไม่ควรพลาด ถนนเหอฟางเจีย (Hefang Old Street) ที่เป็นแหล่งรวมอาหารพื้นเมืองและวัฒนธรรมโบราณ ทั้งยังมีสิ่งปลูกสร้างทันสมัยที่ผสมผสานกับบ้านเรือนรูปแบบดั้งเดิมได้อย่างลงตัว

โมงยามแห่งความร่วมสมัย

ท่ามกลางความเก่าแก่หลายพันปีของเมืองแห่งนี้ ปัจจุบันหางโจวกำลังเป็นหมุดหมายของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ สะท้อนผ่าน ผับ บาร์ และคาเฟ่ร่วมสมัยนับร้อยที่ผนึกตัวกลมกลืนไปกับกลิ่นอายโบราณและความเขียวขจีของเมือง หางโจวยังมีอาร์ตแกลเลอรีจำนวนมาก ทั้งยังเป็นที่ตั้งของ China Academy of Art หรือโรงเรียนศิลปะที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศจีน จนกล่าวได้ว่าหางโจวเป็นอีกหนึ่งเมืองของประเทศจีนที่ไม่ควรพลาดไปเยือน

วางแผนไปเที่ยวหางโจวได้ง่าย ๆ บินไปลงเซี่ยงไฮ้กับการบินไทยได้เลย