เมืองซูโจว เมืองโบราณริมแม่น้ำแยงซี ที่ได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์บนดินของจีนคู่กับเมืองหางโจว เป็นที่พำนักของศิลปิน นักวิชาการ และช่างฝีมือผู้มีทักษะมายาวนานหลายศตวรรษ จึงเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงาม ทั้งยังมีสวนโบราณที่ได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกถึง 9 แห่ง ที่สำคัญเดินทางด้วยรถไฟจากเซี่ยงไฮ้ใช้เวลาเพียง 30 นาที เราจะขอพาไปเยือนซูโจว พร้อมแนะนำพิกัดน่าไปเยือน ที่ผสานแง่มุมทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติอย่างลงตัว
สวนโบราณแห่งซูโจว ภูมิสถาปัตย์ที่ผสานความงามเข้ากับภูมิปัญญา
สถานที่สำคัญของเมืองซูโจวที่ไม่ควรพลาดชมคือสวนโบราณ (Classical Gardens of Suzhou) ที่มีอายุย้อนไปมากกว่า 2,000 ปี ในอดีตสวนเหล่านี้เคยเป็นสมบัติส่วนตัวของเหล่าเจ้านายชั้นสูง ขุนนาง เศรษฐี และนักปราชญ์ ถือเป็นงานศิลปะที่จำลองรูปแบบของธรรมชาติและแสดงให้เห็นถึงการผสมผสานแนวความคิดสุนทรียศาสตร์เข้ากับการใช้ชีวิตของปัญญาชนชาวจีนโบราณ

ปัจจุบันในเมืองซูโจว ยังคงหลงเหลือสวนเหล่านี้มากกว่า 50 แห่ง และมี 9 แห่งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก อาทิ
- สวนจัวเจิ้ง หรือ สวนของขุนนางผู้ถ่อมตน (Humble Administrator’s Garden) สวนที่มีขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงมากที่สุด
- สวนหว่างซือ (Master of the Nets Garden) สวนที่ผสมผสานศิลปะ ธรรมชาติ และสถาปัตยกรรมเข้าด้วยกันอย่างเป็นหนึ่งเดียว
- สวนหลิวหยวน (Lingering Garden) โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ซับซ้อน เผยให้เห็นภูมิทัศน์อันหลากหลายเมื่อมองจากมุมที่ต่างกัน
- สวนหวันซิ่วชันจวัง (Mountain Villa with Embracing Beauty) ออกแบบคล้ายเขาวงกต โดยตั้งใจจำลองพิภพอันเปี่ยมไปด้วยภูมิปัญญาอันลึกซึ้งของธรรมชาติ


Tips: ดอกหอมหมื่นลี้ หรือ Osmanthus เป็นดอกไม้ประจำเมืองซูโจว และจะผลิบานในช่วงเดือนตุลาคมซึ่งตรงกับฤดูใบไม้ร่วง ความหอมหวานของดอกหอมหมื่นลี้ ถูกนำไปทำเป็นชา และขนมหวาน ที่หากินได้ง่ายทั่วเมืองซูโจว

พิพิธภัณฑ์ซูโจว พิพิธภัณฑ์แห่งความร่วมสมัย
อาคารสีขาวรูปทรงร่วมสมัยที่เก็บรักษาและจัดแสดงโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมมากกว่า 30,000 ชิ้น คือพิพิธภัณฑ์ซูโจว (Suzhou Museum) ตัวอาคารออกแบบโดย ไอ. เอ็ม. เพย์ (I.M.Pei) สถาปนิกจีนสัญชาติอเมริกัน ซึ่งโด่งดังระดับโลกจากการเป็นผู้ออกแบบอาคารธนาคารแห่งประเทศจีน (Bank of China Tower) สาขาฮ่องกง และพีระมิดลูฟวร์ (Louvre Pyramid) ซึ่งตั้งอยู่ที่หน้าลานพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ในกรุงปารีส เพย์ออกแบบอาคารนี้โดยอิงจากสถาปัตยกรรมจีนดั้งเดิม แต่ปรับให้ร่วมสมัย ส่งผลให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้กลมกลืนไปกับบรรยากาศและอาคารคลาสสิคเก่าแก่โดยรอบ

ถนนประวัติศาสตร์ ที่ตั้งของวิถีชีวิตท้องถิ่น
ถนนผิงเจียง (Pingjiang Road) เป็นถนนประวัติศาสตร์ที่มีอายุย้อนไปถึงสมัยราชวงศ์ซ่งใต้ เป็นตัวอย่างของเมืองโบราณที่ยังได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ถนนผิงเจียงมีความยาว 1,606 เมตร ขนานไปกับลำคลอง โดยตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยร้านค้าที่มีเอกลักษณ์ อาหารท้องถิ่นรสชาติดี งานฝีมือหลากหลายชนิด และโรงแรมขนาดเล็กที่ตกแต่งอย่างประณีต ในขณะเดียวกันทิวทัศน์และแสงไฟยามค่ำคืนก็มีเสน่ห์ไม่แพ้เวลากลางวัน โดยถนนผิงเจียงจะมีสะพานหินขนาดเล็กสำหรับข้ามคลองจำนวนหลายแห่ง ที่นำไปสู่ตรอกซอกซอยที่ยังคงวิถีชีวิตและบ้านเรือนของผู้คนท้องถิ่นเอาไว้

เมนูห้ามพลาด สุนทรียะแห่งรสชาติจากท้องทะเล
ไม่ใช่แค่มื้ออาหารแต่คือสุนทรียะแห่งรสชาติ เมื่อปูขนที่ดีที่สุดอาศัยอยู่ในทะเลสาบหยางเฉิง (Yangcheng Lake) ของเมืองซูโจว และมีขายในช่วงเวลาจำกัดของแต่ละปี โดยทุกฤดูใบไม้ร่วงปูขนจะมีรสชาติดีที่สุดจากเปลือกที่บางและเนื้อที่นุ่ม ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของชาวท้องถิ่นและผู้มาเยือนที่รักอาหารทะเล โดยวิธีการปรุงคือนึ่งและรับประทานคู่กับน้ำจิ้มตามชอบ หากได้มาเยือนซูโจวปูขนจึงเป็นหนึ่งในรายการอาหารห้ามพลาด

กำลังวางแผนไปเยือนเมืองซูโจวอยู่หรือเปล่า บินไปลงเซี่ยงไฮ้กับการบินไทยได้เลย